- ข้อมูลเศรษฐกิจการเกษตร
- ภาวะเศรษฐกิจการเกษตร
- รายละเอียดภาวะเศรษฐกิจการเกษตร
ข้อมูลเศรษฐกิจการเกษตร
สถานการณ์การผลิตและการตลาดรายสัปดาห์ 18-24 มกราคม 2562
ข้าว
1. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในประเทศ
1.1 การตลาด
มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2561/62
มติที่ประชุม คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2561 เห็นชอบในหลักการมาตรการฯ ด้านการผลิตและการตลาด ทั้งหมด10 โครงการดังนี้
(1) ด้านการผลิต*ได้แก่
1) โครงการส่งเสริมระบบการเกษตรแบบนาแปลงใหญ่ (นาแปลงใหญ่)
2) โครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์
3) โครงการพัฒนาเกษตรกรปราดเปรื่อง
4) โครงการส่งเสริมระบบการเกษตรแบบแม่นยำสูง (Precision Farming)
5) โครงการส่งเสริมการผลิตข้าวหอมมะลิคุณภาพชั้นเลิศ
6) โครงการส่งเสริมการผลิตและการตลาดข้าวพันธุ์ กข 43 เพื่อสุขภาพแบบครบวงจร
7) โครงการปรับเปลี่ยนระบบการผลิตข้าวในพื้นที่ลุ่มต่ำ 13 ทุ่ง
หมายเหตุ * ด้านการผลิต เป็นโครงการที่หน่วยงานดำเนินการตามปกติ จึงไม่นำเข้าที่ประชุม ครม.พิจารณามาตรการฯ
(2) ด้านการตลาด
- มติที่ประชุม คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24กรกฎาคม 2561 อนุมัติการดำเนินโครงการและวงเงินงบประมาณที่ใช้ช่วยเหลือเกษตรกรและรักษาเสถียรภาพราคาข้าว ปีการผลิต 2561/62 ด้านการตลาด จำนวน 3 โครงการ
ได้แก่
1) โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปีและการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าว
2) โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร
3) โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก
- มติที่ประชุม คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11กันยายน 2561 อนุมัติทบทวนมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าว ปีการผลิต 2561/62 โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2561/61 ตามมติคณะกรรมการนบข. เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2561 ที่กระทรวงพาณิชย์เสนอดังนี้
(1) กรณีเกษตรกรฝากเก็บข้าวไว้ที่สหกรณ์หรือสถาบันเกษตรกร ให้ปรับปรุงให้ค่าเก็บรักษาข้าวเปลือก
(2) เกษตรกรและสถาบันเกษตรกร ต้องเก็บรักษาข้าวเปลือกหลักประกันไว้ในยุ้งฉางหรือสถานที่เก็บของตนเองเท่านั้น
(3) ปรับปรุงวิธีการเก็บรักษาข้าวเปลือกของสถาบันเกษตรกร ต้องเก็บรักษาข้าวเปลือกโดยบรรจุข้าวเปลือกในกระสอบป่านหรือถุง Big bag และวางเรียงในยุ้งฉางหรือสถานที่เก็บเพื่อสะดวกในการตรวจสอบ หรือเก็บข้าวในยุ้งฉางที่ยกพื้นสูงหรือไซโล (SILO) ยกเว้นกรณีเทกองจะต้องมีระบบการระบายอากาศ เพื่อการรักษาคุณภาพข้าวเปลือกไม่ให้เสื่อมสภาพตลอดระยะเวลาโครงการ
1.2 ราคา
1) ราคาที่เกษตรกรขายได้ทั้งประเทศ
ข้าวเปลือกเจ้านาปีหอมมะลิสัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 14,914 บาท ราคาลดลงจากตันละ 14,971 บาท บาท ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.38
ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 7,633 บาท ราคาลดลงจากตันละ 7,728 บาท ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.23
2) ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 1 (ใหม่) สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 34,050 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ข้าวขาว 5% (ใหม่) สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 11,590 บาท ราคาลดลงจากตันละ 11,650 บาท ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.51
3) ราคาส่งออกเอฟโอบี
ข้าวหอมมะลิไทย 100% (ใหม่) สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 1,158 ดอลลาร์สหรัฐฯ (36,454 บาท/ตัน) ราคาสูงขึ้นจากตันละ 1,153 ดอลลาร์สหรัฐฯ (36,414 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.43 และสูงขึ้นในรูปเงินบาทตันละ 40 บาท
ข้าวขาว 5% สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 410 ดอลลาร์สหรัฐฯ (12,907 บาท/ตัน) ราคาสูงขึ้นจากตันละ 409 ดอลลาร์สหรัฐฯ (12,917 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.24 แต่ลดลงในรูปเงินบาทตันละ 10 บาท
ข้าวขาว 25% สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 403 ดอลลาร์สหรัฐฯ (12,686 บาท/ตัน) ราคาสูงขึ้นจากตันละ 401 ดอลลาร์สหรัฐฯ (12,664 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.49 และสูงขึ้นในรูปเงินบาทตันละ 22 บาท
ข้าวนึ่ง 5% สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 417 ดอลลาร์สหรัฐฯ (13,127 บาท/ตัน) ราคาสูงขึ้นจากตันละ 412 ดอลลาร์สหรัฐฯ (13,012 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.21 และสูงขึ้นในรูปเงินบาทตันละ 115 บาท
หมายเหตุ : อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 31.4800
2. สถานการณ์ข้าวของประเทศผู้ผลิตและผู้บริโภคที่สำคัญ
กัมพูชา
รัฐบาลกัมพูชาระบุว่า กรณีที่คณะกรรมาธิการยุโรปได้กำหนดอัตราภาษีข้าวที่นำเข้าจากกัมพูชาและเมียนมาร์เป็นเวลา 3 ปี เพื่อควบคุมการนำเข้าข้าวที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสหภาพยุโรประบุว่า กระทบต่อผู้ผลิตข้าวในสหภาพยุโรปนั้นถือเป็น อาวุธที่ทำร้ายเกษตรกรผู้ยากจนของกัมพูชา และจะส่งผลกระทบต่อประชาชนอีกคนหลายล้านคน
ขณะที่พรรคประชาชนกัมพูชา (The ruling Cambodian People’s Party; CPP) ของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ระบุว่า การตัดสินใจดังกล่าวเป็นการเลือกปฏิบัติทางการค้าที่จะส่งผลกระทบต่อชาวกัมพูชาที่ยากจนหลายล้านชีวิต
ในช่วงที่ผ่านมา การส่งออกข้าวจากกัมพูชาไปยังปลายทางประเทศในสหภาพยุโรปเริ่มชะลอลง
จากความกังวลเกี่ยวกับกรณีที่สหภาพยุโรปจะประกาศใช้มาตรการภาษีนำเข้าข้าวจากกัมพูชาและเมียนมาร์ในช่วงกลางเดือนนี้ โดยขณะนี้ผู้นำเข้าข้าวในสหภาพยุโรปกำลังรอฟังการพิจารณาอย่างเป็นทางการจากคณะกรรมาธิการ สหภาพยุโรปว่า จะประกาศมาตรการดังกล่าวออกมาอย่างไรบ้าง ทางด้านผู้ส่งออกข้าวกัมพูชาก็กังวลเกี่ยวกับการที่ผู้ซื้ออาจจะยกเลิกคำสั่งซื้อ หากสหภาพยุโรปประกาศใช้มาตรการทางภาษีสำหรับข้าวที่นำเข้าจากกัมพูชา
ที่มา : สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย
อินโดนีเซีย
อินโดนีเซียวางแผนการส่งออกข้าวในปีนี้ โดยหน่วยงาน Bulog สามารถรับซื้อข้าวจากเกษตรกรมากขึ้น แม้ในปีที่ผ่านมา จะนำเข้าข้าว 2 ล้านตัน
ผู้อำนวยการ Bulog กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกับหลายประเทศในภูมิภาคอาเซียนเกี่ยวกับการนำเข้าข้าวจากอินโดนีเซีย และมีหลายประเทศพร้อมที่จะซื้อข้าวจากอินโดนีเซีย ทั้งนี้การส่งออกข้าวที่มีประสิทธิภาพจะอยู่ระหว่าง
ช่วงที่มีการเก็บเกี่ยวสูงสุด คือช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม ซึ่งจำเป็นต้องรับซื้อข้าวให้ได้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เพื่อผลประโยชน์ของเกษตรกร
การสำรองข้าวของรัฐบาลที่คลังของ Bulog มีปริมาณถึง 2.1 ล้านตัน จากที่ตั้งเป้ารับซื้อข้าวจากเกษตรกร
ในเดือนเมษายนที่ 1.8 ตัน ขณะที่คลังของ Bulog มีความจุได้สูงสุดที่ 3.6 ล้านตัน ดังนั้นจึงคาดว่าผลผลิตส่วนเกินในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวจะมีปริมาณ 300,000 ตัน
ปีนี้ Bulog แจกจ่ายข้าวให้กับผู้ยากจนปริมาณ 300,000 ตันเท่านั้น เนื่องจากรัฐบาลได้ให้ความช่วยเหลือในรูปแบบ e-money ซึ่งสามารถนำไปซื้ออาหารที่ร้านค้าที่กำหนด ส่วนปีที่ผ่านมา Bulog ได้ดำเนินการจัดจำหน่ายข้าวปริมาณ 16 ล้านตัน และอีก 1.7 ล้านตัน มอบให้แก่ครอบครัวผู้มีรายได้น้อย
ที่มา : หนังสือพิมพ์ The Nation
กราฟราคาที่เกษตรกรขายได้ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% และราคาขายส่งตลาด กทม. ข้าวสารเจ้า 5%
1.1 การตลาด
มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2561/62
มติที่ประชุม คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2561 เห็นชอบในหลักการมาตรการฯ ด้านการผลิตและการตลาด ทั้งหมด10 โครงการดังนี้
(1) ด้านการผลิต*ได้แก่
1) โครงการส่งเสริมระบบการเกษตรแบบนาแปลงใหญ่ (นาแปลงใหญ่)
2) โครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์
3) โครงการพัฒนาเกษตรกรปราดเปรื่อง
4) โครงการส่งเสริมระบบการเกษตรแบบแม่นยำสูง (Precision Farming)
5) โครงการส่งเสริมการผลิตข้าวหอมมะลิคุณภาพชั้นเลิศ
6) โครงการส่งเสริมการผลิตและการตลาดข้าวพันธุ์ กข 43 เพื่อสุขภาพแบบครบวงจร
7) โครงการปรับเปลี่ยนระบบการผลิตข้าวในพื้นที่ลุ่มต่ำ 13 ทุ่ง
หมายเหตุ * ด้านการผลิต เป็นโครงการที่หน่วยงานดำเนินการตามปกติ จึงไม่นำเข้าที่ประชุม ครม.พิจารณามาตรการฯ
(2) ด้านการตลาด
- มติที่ประชุม คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24กรกฎาคม 2561 อนุมัติการดำเนินโครงการและวงเงินงบประมาณที่ใช้ช่วยเหลือเกษตรกรและรักษาเสถียรภาพราคาข้าว ปีการผลิต 2561/62 ด้านการตลาด จำนวน 3 โครงการ
ได้แก่
1) โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปีและการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าว
2) โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร
3) โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก
- มติที่ประชุม คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11กันยายน 2561 อนุมัติทบทวนมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าว ปีการผลิต 2561/62 โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2561/61 ตามมติคณะกรรมการนบข. เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2561 ที่กระทรวงพาณิชย์เสนอดังนี้
(1) กรณีเกษตรกรฝากเก็บข้าวไว้ที่สหกรณ์หรือสถาบันเกษตรกร ให้ปรับปรุงให้ค่าเก็บรักษาข้าวเปลือก
(2) เกษตรกรและสถาบันเกษตรกร ต้องเก็บรักษาข้าวเปลือกหลักประกันไว้ในยุ้งฉางหรือสถานที่เก็บของตนเองเท่านั้น
(3) ปรับปรุงวิธีการเก็บรักษาข้าวเปลือกของสถาบันเกษตรกร ต้องเก็บรักษาข้าวเปลือกโดยบรรจุข้าวเปลือกในกระสอบป่านหรือถุง Big bag และวางเรียงในยุ้งฉางหรือสถานที่เก็บเพื่อสะดวกในการตรวจสอบ หรือเก็บข้าวในยุ้งฉางที่ยกพื้นสูงหรือไซโล (SILO) ยกเว้นกรณีเทกองจะต้องมีระบบการระบายอากาศ เพื่อการรักษาคุณภาพข้าวเปลือกไม่ให้เสื่อมสภาพตลอดระยะเวลาโครงการ
1.2 ราคา
1) ราคาที่เกษตรกรขายได้ทั้งประเทศ
ข้าวเปลือกเจ้านาปีหอมมะลิสัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 14,914 บาท ราคาลดลงจากตันละ 14,971 บาท บาท ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.38
ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 7,633 บาท ราคาลดลงจากตันละ 7,728 บาท ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.23
2) ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 1 (ใหม่) สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 34,050 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ข้าวขาว 5% (ใหม่) สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 11,590 บาท ราคาลดลงจากตันละ 11,650 บาท ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.51
3) ราคาส่งออกเอฟโอบี
ข้าวหอมมะลิไทย 100% (ใหม่) สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 1,158 ดอลลาร์สหรัฐฯ (36,454 บาท/ตัน) ราคาสูงขึ้นจากตันละ 1,153 ดอลลาร์สหรัฐฯ (36,414 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.43 และสูงขึ้นในรูปเงินบาทตันละ 40 บาท
ข้าวขาว 5% สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 410 ดอลลาร์สหรัฐฯ (12,907 บาท/ตัน) ราคาสูงขึ้นจากตันละ 409 ดอลลาร์สหรัฐฯ (12,917 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.24 แต่ลดลงในรูปเงินบาทตันละ 10 บาท
ข้าวขาว 25% สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 403 ดอลลาร์สหรัฐฯ (12,686 บาท/ตัน) ราคาสูงขึ้นจากตันละ 401 ดอลลาร์สหรัฐฯ (12,664 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.49 และสูงขึ้นในรูปเงินบาทตันละ 22 บาท
ข้าวนึ่ง 5% สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 417 ดอลลาร์สหรัฐฯ (13,127 บาท/ตัน) ราคาสูงขึ้นจากตันละ 412 ดอลลาร์สหรัฐฯ (13,012 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.21 และสูงขึ้นในรูปเงินบาทตันละ 115 บาท
หมายเหตุ : อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 31.4800
2. สถานการณ์ข้าวของประเทศผู้ผลิตและผู้บริโภคที่สำคัญ
กัมพูชา
รัฐบาลกัมพูชาระบุว่า กรณีที่คณะกรรมาธิการยุโรปได้กำหนดอัตราภาษีข้าวที่นำเข้าจากกัมพูชาและเมียนมาร์เป็นเวลา 3 ปี เพื่อควบคุมการนำเข้าข้าวที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสหภาพยุโรประบุว่า กระทบต่อผู้ผลิตข้าวในสหภาพยุโรปนั้นถือเป็น อาวุธที่ทำร้ายเกษตรกรผู้ยากจนของกัมพูชา และจะส่งผลกระทบต่อประชาชนอีกคนหลายล้านคน
ขณะที่พรรคประชาชนกัมพูชา (The ruling Cambodian People’s Party; CPP) ของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ระบุว่า การตัดสินใจดังกล่าวเป็นการเลือกปฏิบัติทางการค้าที่จะส่งผลกระทบต่อชาวกัมพูชาที่ยากจนหลายล้านชีวิต
ในช่วงที่ผ่านมา การส่งออกข้าวจากกัมพูชาไปยังปลายทางประเทศในสหภาพยุโรปเริ่มชะลอลง
จากความกังวลเกี่ยวกับกรณีที่สหภาพยุโรปจะประกาศใช้มาตรการภาษีนำเข้าข้าวจากกัมพูชาและเมียนมาร์ในช่วงกลางเดือนนี้ โดยขณะนี้ผู้นำเข้าข้าวในสหภาพยุโรปกำลังรอฟังการพิจารณาอย่างเป็นทางการจากคณะกรรมาธิการ สหภาพยุโรปว่า จะประกาศมาตรการดังกล่าวออกมาอย่างไรบ้าง ทางด้านผู้ส่งออกข้าวกัมพูชาก็กังวลเกี่ยวกับการที่ผู้ซื้ออาจจะยกเลิกคำสั่งซื้อ หากสหภาพยุโรปประกาศใช้มาตรการทางภาษีสำหรับข้าวที่นำเข้าจากกัมพูชา
ที่มา : สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย
อินโดนีเซีย
อินโดนีเซียวางแผนการส่งออกข้าวในปีนี้ โดยหน่วยงาน Bulog สามารถรับซื้อข้าวจากเกษตรกรมากขึ้น แม้ในปีที่ผ่านมา จะนำเข้าข้าว 2 ล้านตัน
ผู้อำนวยการ Bulog กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกับหลายประเทศในภูมิภาคอาเซียนเกี่ยวกับการนำเข้าข้าวจากอินโดนีเซีย และมีหลายประเทศพร้อมที่จะซื้อข้าวจากอินโดนีเซีย ทั้งนี้การส่งออกข้าวที่มีประสิทธิภาพจะอยู่ระหว่าง
ช่วงที่มีการเก็บเกี่ยวสูงสุด คือช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม ซึ่งจำเป็นต้องรับซื้อข้าวให้ได้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เพื่อผลประโยชน์ของเกษตรกร
การสำรองข้าวของรัฐบาลที่คลังของ Bulog มีปริมาณถึง 2.1 ล้านตัน จากที่ตั้งเป้ารับซื้อข้าวจากเกษตรกร
ในเดือนเมษายนที่ 1.8 ตัน ขณะที่คลังของ Bulog มีความจุได้สูงสุดที่ 3.6 ล้านตัน ดังนั้นจึงคาดว่าผลผลิตส่วนเกินในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวจะมีปริมาณ 300,000 ตัน
ปีนี้ Bulog แจกจ่ายข้าวให้กับผู้ยากจนปริมาณ 300,000 ตันเท่านั้น เนื่องจากรัฐบาลได้ให้ความช่วยเหลือในรูปแบบ e-money ซึ่งสามารถนำไปซื้ออาหารที่ร้านค้าที่กำหนด ส่วนปีที่ผ่านมา Bulog ได้ดำเนินการจัดจำหน่ายข้าวปริมาณ 16 ล้านตัน และอีก 1.7 ล้านตัน มอบให้แก่ครอบครัวผู้มีรายได้น้อย
ที่มา : หนังสือพิมพ์ The Nation
กราฟราคาที่เกษตรกรขายได้ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% และราคาขายส่งตลาด กทม. ข้าวสารเจ้า 5%
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
1. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในประเทศ
ราคาข้าวโพดภายในประเทศในช่วงสัปดาห์นี้ มีดังนี้
ราคาข้าวโพดที่เกษตรกรขายได้ความชื้นไม่เกิน 14.5 % สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 8.93 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 8.99 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.67 และราคาข้าวโพดที่เกษตรกรขายได้ความชื้นเกิน 14.5 % สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 6.91 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 6.93 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.29
ราคาข้าวโพดขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ ที่โรงงานอาหารสัตว์รับซื้อสัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 9.86 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 9.88 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.20 และราคาขายส่งไซโลรับซื้อสัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 9.22 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 9.30 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.86
ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี. สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 324.60 ดอลลาร์สหรัฐ (10,235 บาท/ตัน) เพิ่มขึ้นจากตันละ 324.40 ดอลลาร์สหรัฐ (10,245 บาท/ตัน) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.06 และเพิ่มขึ้นในรูปของเงินบาทตันละ 10 บาท
2. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในต่างประเทศ
กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ คาดคะเนความต้องการใช้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของโลก ปี 2561/62 ว่ามี 1,131.31 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 1,086.23 ล้านตัน ในปี 2560/61 ร้อยละ 4.15 โดยสหรัฐอเมริกา จีน สหภาพยุโรป บราซิล เม็กซิโก อินเดีย อียิปต์ เวียดนาม อินโดนีเซีย อาร์เจนตินา ไนจีเรีย อิหร่าน และเกาหลีใต้ มีความต้องการใช้เพิ่มขึ้น สำหรับการค้าของโลกมี 163.23 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 151.01 ล้านตัน ในปี2560/61 ร้อยละ 8.09 โดยยูเครน อาร์เจนตินา บราซิล เซอร์เบีย ปารากวัย และเม็กซิโก ส่งออกเพิ่มขึ้น ประกอบกับผู้นำเข้า เช่น สหภาพยุโรป เม็กซิโก เวียดนาม เกาหลีใต้ อียิปต์ อิหร่าน โคลัมเบีย จีน ซาอุดิอาระเบีย แอลจีเรีย มาเลเซีย บังกลาเทศ ชิลี สาธารณรัฐโดมินิกัน เวเนซุเอลา กัวเตมาลา และบราซิล มีการนำเข้าเพิ่มขึ้น (ตารางแนบท้าย)
ราคาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดชิคาโกเดือนมีนาคม 2562 ข้าวโพดเมล็ดเหลืองอเมริกันชั้น 2 สัปดาห์นี้เฉลี่ยบุชเชลละ 377.56 เซนต์ (4,749 บาท/ตัน) เพิ่มขึ้นจากบุชเชลละ 376.36 เซนต์ (4,742 บาท/ตัน) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.32 และเพิ่มขึ้นในรูปของเงินบาทตันละ 7 บาท
มันสำปะหลัง
สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาภายในประเทศ
การผลิต
ผลผลิตมันสำปะหลัง ปี 2562 (เริ่มออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนตุลาคม 2561 – กันยายน 2562) คาดว่ามีพื้นที่เก็บเกี่ยว 8.40 ล้านไร่ ผลผลิต 29.97 ล้านตัน ผลผลลิตต่อไร่ 3.57 ตัน เมื่อเทียบกับปี 2561 ที่มีพื้นที่เก็บเกี่ยว 8.03 ล้านไร่ ผลผลิต 27.88 ล้านตัน
และผลผลิตต่อไร่ 3.47 ตัน พบว่า พื้นที่เก็บเกี่ยว ผลผลิต และผลผลิตต่อไร่ สูงขึ้นร้อยละ 4.61 ร้อยละ 7.50 และร้อยละ 2.88 ตามลำดับ โดยเดือนมกราคม 2562 คาดว่าจะมีผลผลิตออกสู่ตลาด 4.76 ล้านตัน (ร้อยละ 15.89 ของผลผลิตทั้งหมด)
ทั้งนี้ผลผลิตมันสำปะหลังปี 2562 จะออกสู่ตลาดมากในช่วงเดือนมกราคม – มีนาคม 2562 ปริมาณ 20.08 ล้านตัน (ร้อยละ 67 ของผลผลิตทั้งหมด)
การตลาด
หัวมันสำปะหลังออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคามันสำปะหลังปรับตัวลดลง แต่ยังอยู่ในเกณฑ์สูง ทำให้ลานมันเส้นเปิดดำเนินการไม่มาก เนื่องจากเมื่อผลิตเป็นมันเส้นแล้วไม่คุ้มกับการลงทุน ส่งผลให้หัวมันสำปะหลังส่วนใหญ่ไหลเข้าสู่โรงงานแป้งมันสำปะหลัง
ราคาที่เกษตรกรขายได้ทั้งประเทศประจำสัปดาห์ สรุปได้ดังนี้
ราคาหัวมันสำปะหลังสด สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 2.18 บาท ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 2.25 บาท ในสัปดาห์ก่อนคิดเป็นร้อยละ 3.11
ราคามันเส้น สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 5.63 บาท ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 5.74 บาท ในสัปดาห์ก่อนคิดเป็นร้อยละ 1.92
ราคาขายส่งในประเทศ
ราคาขายส่งมันเส้น (ส่งมอบ ณ คลังสินค้าเขต จ.ชลบุรี และ จ.อยุธยา) สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 6.17 บาท ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 6.32 บาท ในสัปดาห์ก่อนคิดเป็นร้อยละ 2.37
ราคาขายส่งแป้งมันสำปะหลังชั้นพิเศษ (ส่งมอบ ณ คลังสินค้าเขต กรุงเทพและปริมณฑล) สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 13.75 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี
ราคาส่งออกมันเส้น สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 210 ดอลลาร์สหรัฐฯ (6,611 บาทต่อตัน) ราคาลดลงจากตันละ 213 ดอลลาร์สหรัฐฯ (6,727 บาทต่อตัน) ในสัปดาห์ก่อน คิดเป็นร้อยละ 1.41
ราคาส่งออกแป้งมันสำปะหลัง สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 453 ดอลลาร์สหรัฐฯ (14,260 บาทต่อตัน) ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อนในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ (14,307 บาทต่อตัน)
การผลิต
ผลผลิตมันสำปะหลัง ปี 2562 (เริ่มออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนตุลาคม 2561 – กันยายน 2562) คาดว่ามีพื้นที่เก็บเกี่ยว 8.40 ล้านไร่ ผลผลิต 29.97 ล้านตัน ผลผลลิตต่อไร่ 3.57 ตัน เมื่อเทียบกับปี 2561 ที่มีพื้นที่เก็บเกี่ยว 8.03 ล้านไร่ ผลผลิต 27.88 ล้านตัน
และผลผลิตต่อไร่ 3.47 ตัน พบว่า พื้นที่เก็บเกี่ยว ผลผลิต และผลผลิตต่อไร่ สูงขึ้นร้อยละ 4.61 ร้อยละ 7.50 และร้อยละ 2.88 ตามลำดับ โดยเดือนมกราคม 2562 คาดว่าจะมีผลผลิตออกสู่ตลาด 4.76 ล้านตัน (ร้อยละ 15.89 ของผลผลิตทั้งหมด)
ทั้งนี้ผลผลิตมันสำปะหลังปี 2562 จะออกสู่ตลาดมากในช่วงเดือนมกราคม – มีนาคม 2562 ปริมาณ 20.08 ล้านตัน (ร้อยละ 67 ของผลผลิตทั้งหมด)
การตลาด
หัวมันสำปะหลังออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคามันสำปะหลังปรับตัวลดลง แต่ยังอยู่ในเกณฑ์สูง ทำให้ลานมันเส้นเปิดดำเนินการไม่มาก เนื่องจากเมื่อผลิตเป็นมันเส้นแล้วไม่คุ้มกับการลงทุน ส่งผลให้หัวมันสำปะหลังส่วนใหญ่ไหลเข้าสู่โรงงานแป้งมันสำปะหลัง
ราคาที่เกษตรกรขายได้ทั้งประเทศประจำสัปดาห์ สรุปได้ดังนี้
ราคาหัวมันสำปะหลังสด สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 2.18 บาท ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 2.25 บาท ในสัปดาห์ก่อนคิดเป็นร้อยละ 3.11
ราคามันเส้น สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 5.63 บาท ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 5.74 บาท ในสัปดาห์ก่อนคิดเป็นร้อยละ 1.92
ราคาขายส่งในประเทศ
ราคาขายส่งมันเส้น (ส่งมอบ ณ คลังสินค้าเขต จ.ชลบุรี และ จ.อยุธยา) สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 6.17 บาท ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 6.32 บาท ในสัปดาห์ก่อนคิดเป็นร้อยละ 2.37
ราคาขายส่งแป้งมันสำปะหลังชั้นพิเศษ (ส่งมอบ ณ คลังสินค้าเขต กรุงเทพและปริมณฑล) สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 13.75 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี
ราคาส่งออกมันเส้น สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 210 ดอลลาร์สหรัฐฯ (6,611 บาทต่อตัน) ราคาลดลงจากตันละ 213 ดอลลาร์สหรัฐฯ (6,727 บาทต่อตัน) ในสัปดาห์ก่อน คิดเป็นร้อยละ 1.41
ราคาส่งออกแป้งมันสำปะหลัง สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 453 ดอลลาร์สหรัฐฯ (14,260 บาทต่อตัน) ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อนในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ (14,307 บาทต่อตัน)
ปาล์มน้ำมัน
1. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาภายในประเทศ
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร คาดว่าปี 2562 ผลผลิตปาล์มน้ำมันเดือนมกราคมจะมีประมาณ 1.520 ล้านตันคิดเป็นน้ำมันปาล์มดิบ 0.274 ล้านตัน สูงขึ้นจากผลผลิตปาล์มทะลาย 1.349 ล้านตัน คิดเป็นน้ำมันปาล์มดิบ 0.243 ล้านตัน ของเดือนธันวาคม 2561 คิดเป็นร้อยละ 12.68 และร้อยละ 12.76 ตามลำดับ
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาผลปาล์มทะลาย สัปดาห์นี้เฉลี่ย กก.ละ 2.23 บาท ลดลงจาก กก.ละ 2.54 บาท ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 12.20
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาน้ำมันปาล์มดิบ สัปดาห์นี้เฉลี่ย กก.ละ 16.75 บาท ลดลงจาก กก.ละ 17.15 บาท ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 2.33
2. ภาวะการผลิต การตลาด และราคาในตลาดต่างประเทศ
ราคาน้ำมันปาล์มของมาเลเซียปรับตัวสูงขึ้น
ราคาน้ำมันปาล์มดิบซื้อขายล่วงหน้าตลาดมาเลเซียส่งมอบในเดือนเมษายน 2562 ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 2,269 ริงกิตต่อตัน (549.39 ดอลลาร์สหรัฐฯ) เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 ปริมาณอยู่ที่ 40,437 ตัน เนื่องจากผลผลิตปาล์มน้ำมันของมาเลเซียลดลงร้อยละ 2.2 และระดับสต็อกน้ำมันปาล์มดิบลดลงส่งผลให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น สำหรับปริมาณการส่งออกน้ำมันปาล์มของมาเลเซียจากการสำรวจในช่วง 20 วันแรกของเดือนมกราคม 2562 เพิ่มขึ้น ร้อยละ 13 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของเดือนที่ผ่านมา และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันพืชถั่วเหลืองส่งมอบในเดือนมีนาคม 2560 ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 อย่างไรก็ตาม คาดว่าราคาน้ำมันปาล์มดิบเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 2,400 ริงกิตต่อตั
ราคาในตลาดต่างประเทศ
ตลาดมาเลเซีย ราคาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันปาล์มดิบสัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 2,154.63 ดอลลาร์มาเลเซีย (16.81 บาท/กก.) สูงขึ้นจากตันละ 2,097.71 ดอลลาร์มาเลเซีย (16.52 บาท/กก.) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาร้อยละ 2.71
ตลาดรอตเตอร์ดัม ราคาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันปาล์มดิบสัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 540.63 ดอลลาร์สหรัฐฯ (17.25 บาท/กก.) สูงขึ้นจากตันละ 530.50 ดอลลาร์สหรัฐฯ (16.98 บาท/กก.) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาร้อยละ 1.91
หมายเหตุ : ราคาในตลาดต่างประเทศเฉลี่ย 5 วัน
อ้อยและน้ำตาล
- สรุปภาวะการผลิต การตลาดและราคาในประเทศ
ศูนย์บริหารการผลิต สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายได้รายงานการเก็บเกี่ยวอ้อยและการผลิตน้ำตาลทรายตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2561 จนถึงวันที่ 15 มกราคม 2562 ว่ามีอ้อยเก็บเกี่ยวเข้าโรงงานน้ำตาลไปแล้วจำนวน 45,171,578 ตัน ผลิตเป็นน้ำตาลได้ 4,440,657 ตัน แยกเป็นน้ำตาลทรายดิบ 3,586,738 ตัน และน้ำตาลทรายขาว 853,919 ตัน ค่าความหวานของอ้อยเฉลี่ย 11.60 ซี.ซี.เอส. ผลผลิต น้ำตาลทรายเฉลี่ยต่อตันอ้อย 98.31 กก.ต่อตันอ้อย
- สรุปภาวการณ์ผลิตการตลาดและราคาในต่างประเทศ
ถั่วเหลือง
ยางพารา
ราคายางแผ่นดิบคุณภาพ 3 ตลาดกลางหาดใหญ่ สัปดาห์นี้ 43.97 บาท/กิโลกรัม
1. ราคายางพาราภายในประเทศ
1.1 ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
1) ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 1 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 41.40 บาท ลดลงจาก 41.64 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 0.24 บาท หรือลดลงร้อยละ 0.58
2) ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 2 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 40.90 บาท ลดลงจาก 41.14 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 0.24 บาท หรือลดลงร้อยละ 0.58
3) ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 3 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 40.40 บาท ลดลงจาก 40.64 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 0.24 บาท หรือลดลงร้อยละ 0.59
4) ยางก้อนคละ ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 19.97 บาท ลดลงจาก 20.28 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 0.31 บาท หรือลดลงร้อยละ 1.53
5) เศษยางคละ ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 17.06 บาท ลดลงจาก 17.28 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 0.22 บาท หรือลดลงร้อยละ 1.27
6) น้ำยางสดคละ ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 33.89 บาท ลดลงจาก 34.62 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 0.73 บาท หรือลดลงร้อยละ 2.11
1.2 ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี. ซื้อขายล่วงหน้าส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์
ณ ท่าเรือกรุงเทพ
1) ยางแผ่นรมควันชั้น 1 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 52.97 บาท เพิ่มขึ้นจาก 51.38 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 1.59 บาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.09
2) ยางแผ่นรมควันชั้น 3 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 51.82 บาท เพิ่มขึ้นจาก 50.23 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 1.59 บาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.17
3) ยางแท่ง (STR20) ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 44.92 บาท เพิ่มขึ้นจาก 44.42 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 0.50 บาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.13
4) น้ำยางข้น ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 32.80 บาท ลดลงจาก 33.08 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 0.28 บาท หรือลดลงร้อยละ 0.85
ณ ท่าเรือสงขลา
1) ยางแผ่นรมควันชั้น 1 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 52.72 บาท เพิ่มขึ้นจาก 51.13 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 1.59 บาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.11
2) ยางแผ่นรมควันชั้น 3 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 51.57 บาท เพิ่มขึ้นจาก 49.98 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 1.59 บาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.18
3) ยางแท่ง (STR20) ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 44.67 บาท เพิ่มขึ้นจาก 44.17 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 0.50 บาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.13
4) น้ำยางข้น ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 32.55 บาท ลดลงจาก 32.83 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 0.28 บาท หรือลดลงร้อยละ 0.85
2. ราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 ในตลาดล่วงหน้าต่างประเทศ
2.1 ราคาซื้อขายล่วงหน้าตลาดสิงคโปร์ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 161.36 เซนต์สหรัฐฯ (50.80 บาท) เพิ่มขึ้นจาก 158.30 เซนต์สหรัฐฯ (49.96 บาท) ของสัปดาห์ที่ผ่านมากิโลกรัมละ 3.06 เซนต์สหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.93
2.2 ราคาซื้อขายล่วงหน้าตลาดโตเกียว เฉลี่ยกิโลกรัมละ 195.06 เยน (55.60 บาท) เพิ่มขึ้นจาก 186.25 เยน (53.71 บาท) ของสัปดาห์ที่ผ่านมากิโลกรัมละ 8.81 เยน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.73
1. ราคายางพาราภายในประเทศ
1.1 ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
1) ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 1 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 41.40 บาท ลดลงจาก 41.64 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 0.24 บาท หรือลดลงร้อยละ 0.58
2) ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 2 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 40.90 บาท ลดลงจาก 41.14 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 0.24 บาท หรือลดลงร้อยละ 0.58
3) ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 3 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 40.40 บาท ลดลงจาก 40.64 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 0.24 บาท หรือลดลงร้อยละ 0.59
4) ยางก้อนคละ ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 19.97 บาท ลดลงจาก 20.28 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 0.31 บาท หรือลดลงร้อยละ 1.53
5) เศษยางคละ ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 17.06 บาท ลดลงจาก 17.28 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 0.22 บาท หรือลดลงร้อยละ 1.27
6) น้ำยางสดคละ ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 33.89 บาท ลดลงจาก 34.62 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 0.73 บาท หรือลดลงร้อยละ 2.11
1.2 ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี. ซื้อขายล่วงหน้าส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์
ณ ท่าเรือกรุงเทพ
1) ยางแผ่นรมควันชั้น 1 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 52.97 บาท เพิ่มขึ้นจาก 51.38 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 1.59 บาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.09
2) ยางแผ่นรมควันชั้น 3 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 51.82 บาท เพิ่มขึ้นจาก 50.23 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 1.59 บาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.17
3) ยางแท่ง (STR20) ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 44.92 บาท เพิ่มขึ้นจาก 44.42 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 0.50 บาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.13
4) น้ำยางข้น ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 32.80 บาท ลดลงจาก 33.08 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 0.28 บาท หรือลดลงร้อยละ 0.85
ณ ท่าเรือสงขลา
1) ยางแผ่นรมควันชั้น 1 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 52.72 บาท เพิ่มขึ้นจาก 51.13 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 1.59 บาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.11
2) ยางแผ่นรมควันชั้น 3 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 51.57 บาท เพิ่มขึ้นจาก 49.98 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 1.59 บาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.18
3) ยางแท่ง (STR20) ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 44.67 บาท เพิ่มขึ้นจาก 44.17 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 0.50 บาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.13
4) น้ำยางข้น ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 32.55 บาท ลดลงจาก 32.83 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 0.28 บาท หรือลดลงร้อยละ 0.85
2. ราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 ในตลาดล่วงหน้าต่างประเทศ
2.1 ราคาซื้อขายล่วงหน้าตลาดสิงคโปร์ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 161.36 เซนต์สหรัฐฯ (50.80 บาท) เพิ่มขึ้นจาก 158.30 เซนต์สหรัฐฯ (49.96 บาท) ของสัปดาห์ที่ผ่านมากิโลกรัมละ 3.06 เซนต์สหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.93
2.2 ราคาซื้อขายล่วงหน้าตลาดโตเกียว เฉลี่ยกิโลกรัมละ 195.06 เยน (55.60 บาท) เพิ่มขึ้นจาก 186.25 เยน (53.71 บาท) ของสัปดาห์ที่ผ่านมากิโลกรัมละ 8.81 เยน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.73
สับปะรด
ถั่วเขียว
สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาภายในประเทศ
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ถั่วเขียวผิวมันเมล็ดใหญ่คละ สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 22.17 บาท สูงขึ้นจากราคากิโลกรัมละ 20.51 บาท
ของสัปดาห์ก่อน ร้อยละ 8.09
ถั่วเขียวผิวมันเมล็ดเล็กคละ และถั่วเขียวผิวดำคละ สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ถั่วเขียวผิวมันเกรดเอ สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 26.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ถั่วเขียวผิวมันเกรดบี สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 23.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ถั่วเขียวผิวดำ ชั้น 1 สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 25.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ถั่วเขียวผิวดำ ชั้น 2 สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 16.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ถั่วนิ้วนางแดง สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 26.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี
ถั่วเขียวผิวมันเกรดเอ สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 856.40 ดอลลาร์สหรัฐ (26.96 บาท/กิโลกรัม) สูงขึ้นจากตันละ 852.80 ดอลลาร์สหรัฐ (26.93 บาท/กิโลกรัม) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.42 และสูงขึ้นในรูปเงินบาทกิโลกรัมละ 0.03 บาท
ถั่วเขียวผิวมันเกรดบี สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 760.40 ดอลลาร์สหรัฐ (23.94 บาท/กิโลกรัม) สูงขึ้นจากตันละ 757.40 ดอลลาร์สหรัฐ (23.92 บาท/กิโลกรัม) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.40 และสูงขึ้นในรูปเงินบาทกิโลกรัมละ 0.02 บาท
ถั่วเขียวผิวดำ ชั้น 1 สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 856.40 ดอลลาร์สหรัฐ (26.96 บาท/กิโลกรัม) สูงขึ้นจากตันละ 852.80 ดอลลาร์สหรัฐ (26.93 บาท/กิโลกรัม) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.42 และสูงขึ้นในรูปเงินบาทกิโลกรัมละ 0.03 บาท
ถั่วเขียวผิวดำ ชั้น 2 สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 505.00 ดอลลาร์สหรัฐ (15.90 บาท/กิโลกรัม) สูงขึ้นจากตันละ 502.80 ดอลลาร์สหรัฐ (15.88 บาท/กิโลกรัม) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.44 และสูงขึ้นในรูปเงินบาทกิโลกรัมละ 0.02 บาท
ถั่วนิ้วนางแดง สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 913.80 ดอลลาร์สหรัฐ (28.77 บาท/กิโลกรัม) สูงขึ้นจากตันละ 910.20 ดอลลาร์สหรัฐ (28.75 บาท/กิโลกรัม) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.40 และสูงขึ้นในรูปเงินบาทกิโลกรัมละ 0.02 บาท
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ถั่วเขียวผิวมันเมล็ดใหญ่คละ สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 22.17 บาท สูงขึ้นจากราคากิโลกรัมละ 20.51 บาท
ของสัปดาห์ก่อน ร้อยละ 8.09
ถั่วเขียวผิวมันเมล็ดเล็กคละ และถั่วเขียวผิวดำคละ สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ถั่วเขียวผิวมันเกรดเอ สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 26.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ถั่วเขียวผิวมันเกรดบี สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 23.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ถั่วเขียวผิวดำ ชั้น 1 สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 25.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ถั่วเขียวผิวดำ ชั้น 2 สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 16.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ถั่วนิ้วนางแดง สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 26.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี
ถั่วเขียวผิวมันเกรดเอ สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 856.40 ดอลลาร์สหรัฐ (26.96 บาท/กิโลกรัม) สูงขึ้นจากตันละ 852.80 ดอลลาร์สหรัฐ (26.93 บาท/กิโลกรัม) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.42 และสูงขึ้นในรูปเงินบาทกิโลกรัมละ 0.03 บาท
ถั่วเขียวผิวมันเกรดบี สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 760.40 ดอลลาร์สหรัฐ (23.94 บาท/กิโลกรัม) สูงขึ้นจากตันละ 757.40 ดอลลาร์สหรัฐ (23.92 บาท/กิโลกรัม) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.40 และสูงขึ้นในรูปเงินบาทกิโลกรัมละ 0.02 บาท
ถั่วเขียวผิวดำ ชั้น 1 สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 856.40 ดอลลาร์สหรัฐ (26.96 บาท/กิโลกรัม) สูงขึ้นจากตันละ 852.80 ดอลลาร์สหรัฐ (26.93 บาท/กิโลกรัม) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.42 และสูงขึ้นในรูปเงินบาทกิโลกรัมละ 0.03 บาท
ถั่วเขียวผิวดำ ชั้น 2 สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 505.00 ดอลลาร์สหรัฐ (15.90 บาท/กิโลกรัม) สูงขึ้นจากตันละ 502.80 ดอลลาร์สหรัฐ (15.88 บาท/กิโลกรัม) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.44 และสูงขึ้นในรูปเงินบาทกิโลกรัมละ 0.02 บาท
ถั่วนิ้วนางแดง สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 913.80 ดอลลาร์สหรัฐ (28.77 บาท/กิโลกรัม) สูงขึ้นจากตันละ 910.20 ดอลลาร์สหรัฐ (28.75 บาท/กิโลกรัม) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.40 และสูงขึ้นในรูปเงินบาทกิโลกรัมละ 0.02 บาท
ถั่วลิสง
สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาภายในประเทศ
ความเคลื่อนไหวของราคาประจำสัปดาห์ มีดังนี้
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาถั่วลิสงทั้งเปลือกแห้ง สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 60.20 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 60.00 บาท
ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.33
ราคาถั่วลิสงทั้งเปลือกสด สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 22.27 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาถั่วลิสงกะเทาะเปลือกชนิดคัดพิเศษ สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 60.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ราคาถั่วลิสงกะเทาะเปลือกชนิดคัดธรรมดา สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 51.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ความเคลื่อนไหวของราคาประจำสัปดาห์ มีดังนี้
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาถั่วลิสงทั้งเปลือกแห้ง สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 60.20 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 60.00 บาท
ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.33
ราคาถั่วลิสงทั้งเปลือกสด สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 22.27 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาถั่วลิสงกะเทาะเปลือกชนิดคัดพิเศษ สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 60.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ราคาถั่วลิสงกะเทาะเปลือกชนิดคัดธรรมดา สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 51.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ฝ้าย
1. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาภายในประเทศ
ราคาที่เกษตรกรขายได้
ราคาฝ้ายรวมเมล็ดชนิดคละ สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
ราคาซื้อ-ขายล่วงหน้าตลาดนิวยอร์ก (New York Cotton Futures)
ราคาซื้อ-ขายล่วงหน้า เพื่อส่งมอบเดือนมีนาคม 2562 สัปดาห์นี้เฉลี่ยปอนด์ละ 73.59 เซนต์(กิโลกรัมละ 51.75 บาท)
สูงขึ้นจากปอนด์ละ 73.00 เซนต์ (กิโลกรัมละ 51.50 บาท) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.81และสูงขึ้นในรูปของเงินบาทกิโลกรัมละ 0.25 บาท
ราคาฝ้ายรวมเมล็ดชนิดคละ สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
ราคาซื้อ-ขายล่วงหน้าตลาดนิวยอร์ก (New York Cotton Futures)
ราคาซื้อ-ขายล่วงหน้า เพื่อส่งมอบเดือนมีนาคม 2562 สัปดาห์นี้เฉลี่ยปอนด์ละ 73.59 เซนต์(กิโลกรัมละ 51.75 บาท)
สูงขึ้นจากปอนด์ละ 73.00 เซนต์ (กิโลกรัมละ 51.50 บาท) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.81และสูงขึ้นในรูปของเงินบาทกิโลกรัมละ 0.25 บาท
ไหม
ราคาเส้นไหมพื้นเมืองเกรด 1 สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 1,582 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 1,577 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 0.32
ราคาเส้นไหมพื้นเมืองเกรด 2 สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 1,259 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 1,233 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 2.11
ราคาเส้นไหมพื้นเมืองเกรด 3 สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 842 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 837 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 0.52
ราคาเส้นไหมพื้นเมืองเกรด 2 สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 1,259 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 1,233 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 2.11
ราคาเส้นไหมพื้นเมืองเกรด 3 สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 842 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 837 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 0.52
ปศุสัตว์
สุกร
สถานการณ์การผลิต การค้า และราคาในประเทศ
สัปดาห์นี้ราคาสุกรมีชีวิตที่เกษตรกรขายได้สูงขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากความต้องการบริโภคเนื้อสุกรมีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ภาวะตลาดสุกรคึกคักและคล่องตัว แนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดว่าราคาและความต้องการบริโภคจะสูงขึ้นเล็กน้อย เพราะใกล้เข้าสู่เทศกาลวันตรุษจีน
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
สุกรมีชีวิตพันธุ์ผสมน้ำหนัก 100 กิโลกรัมขึ้นไป ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ กิโลกรัมละ 65.20 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 63.16 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 3.23 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ กิโลกรัมละ 63.35 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กิโลกรัมละ 61.64 บาท ภาคกลาง กิโลกรัมละ 66.62 บาท และภาคใต้ กิโลกรัมละ 67.40 บาท ส่วนราคาลูกสุกรตามประกาศของบริษัท ซี.พี. ในสัปดาห์นี้ ตัวละ 2,100 บาท (บวกลบ 70 บาท) สูงขึ้นจากตัวละ 2,000 บาท (บวกลบ 70 บาท) ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 5.00
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งสุกรมีชีวิต ณ แหล่งผลิตภาคกลาง จากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยกิโลกรัมละ 73.50 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
สัปดาห์นี้ราคาสุกรมีชีวิตที่เกษตรกรขายได้สูงขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากความต้องการบริโภคเนื้อสุกรมีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ภาวะตลาดสุกรคึกคักและคล่องตัว แนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดว่าราคาและความต้องการบริโภคจะสูงขึ้นเล็กน้อย เพราะใกล้เข้าสู่เทศกาลวันตรุษจีน
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
สุกรมีชีวิตพันธุ์ผสมน้ำหนัก 100 กิโลกรัมขึ้นไป ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ กิโลกรัมละ 65.20 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 63.16 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 3.23 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ กิโลกรัมละ 63.35 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กิโลกรัมละ 61.64 บาท ภาคกลาง กิโลกรัมละ 66.62 บาท และภาคใต้ กิโลกรัมละ 67.40 บาท ส่วนราคาลูกสุกรตามประกาศของบริษัท ซี.พี. ในสัปดาห์นี้ ตัวละ 2,100 บาท (บวกลบ 70 บาท) สูงขึ้นจากตัวละ 2,000 บาท (บวกลบ 70 บาท) ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 5.00
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งสุกรมีชีวิต ณ แหล่งผลิตภาคกลาง จากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยกิโลกรัมละ 73.50 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
ไก่เนื้อ
สถานการณ์การผลิต การค้า และราคาในประเทศ
ในสัปดาห์นี้ราคาไก่เนื้อที่เกษตรกรขายได้สูงขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากความต้องการบริโภคไก่เนื้อเริ่มมีมากขึ้น ส่งผลให้สถานการณ์ตลาดไก่เนื้อคึกคักและคล่องตัว การจับจ่ายใช้สอยเริ่มมีมากขึ้น แนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดว่าราคาและความต้องการบริโภคจะสูงขึ้นเล็กน้อย เพราะใกล้เข้าสู่เทศกาลวันตรุษจีน
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาไก่เนื้อที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ กิโลกรัมละ 35.99 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 34.10 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 5.54 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ กิโลกรัมละ 35.00 บาท ภาคกลาง กิโลกรัมละ 35.72 บาท ภาคใต้ กิโลกรัมละ 39.86 บาท และภาคตะวันออกเฉียงเหนือไม่มีรายงาน ส่วนราคาลูกไก่เนื้อตามประกาศของบริษัท ซี.พี ในสัปดาห์นี้ ตัวละ 10.50 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งไก่มีชีวิตหน้าโรงฆ่า จากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยกิโลกรัมละ 32.50 บาท และราคาขายส่งไก่สดทั้งตัวรวมเครื่องใน เฉลี่ยกิโลกรัมละ 44.50 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
ในสัปดาห์นี้ราคาไก่เนื้อที่เกษตรกรขายได้สูงขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากความต้องการบริโภคไก่เนื้อเริ่มมีมากขึ้น ส่งผลให้สถานการณ์ตลาดไก่เนื้อคึกคักและคล่องตัว การจับจ่ายใช้สอยเริ่มมีมากขึ้น แนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดว่าราคาและความต้องการบริโภคจะสูงขึ้นเล็กน้อย เพราะใกล้เข้าสู่เทศกาลวันตรุษจีน
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาไก่เนื้อที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ กิโลกรัมละ 35.99 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 34.10 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 5.54 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ กิโลกรัมละ 35.00 บาท ภาคกลาง กิโลกรัมละ 35.72 บาท ภาคใต้ กิโลกรัมละ 39.86 บาท และภาคตะวันออกเฉียงเหนือไม่มีรายงาน ส่วนราคาลูกไก่เนื้อตามประกาศของบริษัท ซี.พี ในสัปดาห์นี้ ตัวละ 10.50 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งไก่มีชีวิตหน้าโรงฆ่า จากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยกิโลกรัมละ 32.50 บาท และราคาขายส่งไก่สดทั้งตัวรวมเครื่องใน เฉลี่ยกิโลกรัมละ 44.50 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
ไข่ไก่
สถานการณ์การผลิต การค้า และราคาในประเทศ
ภาวะตลาดไข่ไก่สัปดาห์นี้ ราคาไข่ไก่ที่เกษตรกรขายได้สูงขึ้นเล็กน้อยจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้จากการประชุมคณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ (Egg Board) โดยกระทรวงเกษตรฯ และทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยปัจจุบันมีแม่ไก่ไข่ยืนกรงอยู่ที่ประมาณ 50 ล้านตัว ซึ่งจะมีการผลิตไข่ไก่ที่ประมาณ 80% หรือประมาณ 40 ล้านฟองต่อวัน ทั้งนี้เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทาน ส่งผลให้ราคาไข่ไก่ที่เกษตรกรขายได้มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาไข่ไก่ในประเทศมีเสถียรภาพมากขึ้น แนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดว่าราคาและความต้องการบริโภคจะสูงขึ้นเล็กน้อย เพราะจะมีปลดแม่ไก่ไข่เร็วขึ้นเพื่อรองรับไก่ไหว้ในเทศกาลวันตรุษจีน
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาไข่ไก่ที่เกษตรกรขายได้ เฉลี่ยทั้งประเทศร้อยฟองละ 277 บาท สูงขึ้นจากร้อยฟองละ 273 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 1.47 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ ร้อยฟองละ 295 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยฟองละ 280 บาท ภาคกลางร้อยฟองละ 271 บาท และภาคใต้ไม่มีรายงาน ส่วนราคาลูกไก่ไข่ตามประกาศของบริษัท ซี.พี. ในสัปดาห์นี้ ตัวละ 15.00 บาท สูงขึ้นจากตัวละ 11.00 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 36.36
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งไข่ไก่ (เฉลี่ยเบอร์ 0-4) ในตลาดกรุงเทพฯจากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยร้อยฟองละ 291 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
ภาวะตลาดไข่ไก่สัปดาห์นี้ ราคาไข่ไก่ที่เกษตรกรขายได้สูงขึ้นเล็กน้อยจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้จากการประชุมคณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ (Egg Board) โดยกระทรวงเกษตรฯ และทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยปัจจุบันมีแม่ไก่ไข่ยืนกรงอยู่ที่ประมาณ 50 ล้านตัว ซึ่งจะมีการผลิตไข่ไก่ที่ประมาณ 80% หรือประมาณ 40 ล้านฟองต่อวัน ทั้งนี้เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทาน ส่งผลให้ราคาไข่ไก่ที่เกษตรกรขายได้มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาไข่ไก่ในประเทศมีเสถียรภาพมากขึ้น แนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดว่าราคาและความต้องการบริโภคจะสูงขึ้นเล็กน้อย เพราะจะมีปลดแม่ไก่ไข่เร็วขึ้นเพื่อรองรับไก่ไหว้ในเทศกาลวันตรุษจีน
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาไข่ไก่ที่เกษตรกรขายได้ เฉลี่ยทั้งประเทศร้อยฟองละ 277 บาท สูงขึ้นจากร้อยฟองละ 273 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 1.47 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ ร้อยฟองละ 295 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยฟองละ 280 บาท ภาคกลางร้อยฟองละ 271 บาท และภาคใต้ไม่มีรายงาน ส่วนราคาลูกไก่ไข่ตามประกาศของบริษัท ซี.พี. ในสัปดาห์นี้ ตัวละ 15.00 บาท สูงขึ้นจากตัวละ 11.00 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 36.36
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งไข่ไก่ (เฉลี่ยเบอร์ 0-4) ในตลาดกรุงเทพฯจากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยร้อยฟองละ 291 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
ไข่เป็ด
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาไข่เป็ดที่เกษตรกรขายได้ เฉลี่ยทั้งประเทศร้อยฟองละ 327 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ ร้อยฟองละ 338 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยฟองละ 344 บาท ภาคกลาง ร้อยฟองละ 293 บาท และภาคใต้ ร้อยฟองละ 368 บาท
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งไข่เป็ดคละ ณ แหล่งผลิตภาคกลาง จากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยร้อยฟองละ 340 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
ราคาไข่เป็ดที่เกษตรกรขายได้ เฉลี่ยทั้งประเทศร้อยฟองละ 327 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ ร้อยฟองละ 338 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยฟองละ 344 บาท ภาคกลาง ร้อยฟองละ 293 บาท และภาคใต้ ร้อยฟองละ 368 บาท
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งไข่เป็ดคละ ณ แหล่งผลิตภาคกลาง จากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยร้อยฟองละ 340 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
โคเนื้อ
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาโคพันธุ์ลูกผสม (ขนาดกลาง) ที่เกษตรกรขายได้ เฉลี่ยทั้งประเทศกิโลกรัมละ 88.16 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 87.75 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 0.47 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ กิโลกรัมละ 89.99 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กิโลกรัมละ 84.64 บาท ภาคกลาง กิโลกรัมละ 83.89 บาท และภาคใต้กิโลกรัมละ 101.01 บาท
ราคาโคพันธุ์ลูกผสม (ขนาดกลาง) ที่เกษตรกรขายได้ เฉลี่ยทั้งประเทศกิโลกรัมละ 88.16 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 87.75 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 0.47 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ กิโลกรัมละ 89.99 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กิโลกรัมละ 84.64 บาท ภาคกลาง กิโลกรัมละ 83.89 บาท และภาคใต้กิโลกรัมละ 101.01 บาท
กระบือ
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคากระบือ (ขนาดกลาง) ที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศกิโลกรัมละ 69.98 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 69.81 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 0.25 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ กิโลกรัมละ 90.72 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กิโลกรัมละ 65.98 บาท ภาคกลางและภาคใต้ไม่มีรายงานราคา
ราคากระบือ (ขนาดกลาง) ที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศกิโลกรัมละ 69.98 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 69.81 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 0.25 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ กิโลกรัมละ 90.72 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กิโลกรัมละ 65.98 บาท ภาคกลางและภาคใต้ไม่มีรายงานราคา
ประมง
1. สถานการณ์การผลิต การตลาดและราคาในประเทศ
การผลิต
เปลี่ยนถ่ายกระชังลูกใหม่หรือเพิ่มออกซิเจนในน้ำนช่วงดังกล่าวเป็นช่วงที่น้ำตาย โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนบวกกับออกซิเจนในน้ำค่อนในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (ระหว่างวันที่ 18 – 24 มกราคม 2562) ไม่มีรายงานปริมาณจากองค์การสะพานปลากรุงเทพฯ
การตลาด
ความเคลื่อนไหวของราคาสัตว์น้ำที่สำคัญประจำสัปดาห์นี้มีดังนี้ คือ
2.1 ปลาดุกบิ๊กอุย (ขนาด 3-4 ตัว/กก.)
ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 45.00 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 80.00 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
2.2 ปลาช่อน (ขนาดกลาง)
ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 86.34 บาท ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 86.50 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.16 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 120.00 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
2.3 กุ้งกุลาดำ
ราคาที่ชาวประมงขายได้ ขนาด 60 ตัวต่อกิโลกรัม และราคา ณ ตลาดทะเลไทย จ.สมุทรสาคร ขนาดกลาง (60 ตัว/กก.) สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
2.4 กุ้งขาวแวนนาไม
ราคาที่ชาวประมงขายได้ขนาด 70 ตัวต่อกิโลกรัม เฉลี่ยกิโลกรัมละ 166.30 บาท ราคาสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 163.01 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 3.29 บาท
สำหรับราคา ณ ตลาดทะเลไทย จ.สมุทรสาคร ขนาด 70 ตัวต่อกิโลกรัม เฉลี่ยกิโลกรัมละ 170.83 บาท ราคาสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 163.33 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 7.50 บาท
2.5 ปลาทู (ขนาดกลาง)
ราคาปลาทูสดที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 83.94 บาท ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 89.58 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 5.64 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 85.00 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
2.6 ปลาหมึกกระดอง (ขนาดกลาง)
ราคาปลาหมึกกระดองสดที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 134.00 บาท ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 161.00 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 27.00 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 200.00 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
2.7 ปลาเป็ดและปลาป่น
ราคาปลาเป็ดที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 8.30 บาท ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 8.31 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.01 บาท
สำหรับราคาขายส่งปลาป่นชนิดโปรตีนต่ำกว่า 60% (ระหว่างวันที่ 18 – 24 มกราคม 2562) ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 27.00 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
1. สถานการณ์การผลิต การตลาดและราคาในประเทศ
การผลิต
เปลี่ยนถ่ายกระชังลูกใหม่หรือเพิ่มออกซิเจนในน้ำนช่วงดังกล่าวเป็นช่วงที่น้ำตาย โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนบวกกับออกซิเจนในน้ำค่อนในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (ระหว่างวันที่ 18 – 24 มกราคม 2562) ไม่มีรายงานปริมาณจากองค์การสะพานปลากรุงเทพฯ
การตลาด
ความเคลื่อนไหวของราคาสัตว์น้ำที่สำคัญประจำสัปดาห์นี้มีดังนี้ คือ
2.1 ปลาดุกบิ๊กอุย (ขนาด 3-4 ตัว/กก.)
ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 45.00 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 80.00 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
2.2 ปลาช่อน (ขนาดกลาง)
ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 86.34 บาท ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 86.50 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.16 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 120.00 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
2.3 กุ้งกุลาดำ
ราคาที่ชาวประมงขายได้ ขนาด 60 ตัวต่อกิโลกรัม และราคา ณ ตลาดทะเลไทย จ.สมุทรสาคร ขนาดกลาง (60 ตัว/กก.) สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
2.4 กุ้งขาวแวนนาไม
ราคาที่ชาวประมงขายได้ขนาด 70 ตัวต่อกิโลกรัม เฉลี่ยกิโลกรัมละ 166.30 บาท ราคาสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 163.01 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 3.29 บาท
สำหรับราคา ณ ตลาดทะเลไทย จ.สมุทรสาคร ขนาด 70 ตัวต่อกิโลกรัม เฉลี่ยกิโลกรัมละ 170.83 บาท ราคาสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 163.33 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 7.50 บาท
2.5 ปลาทู (ขนาดกลาง)
ราคาปลาทูสดที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 83.94 บาท ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 89.58 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 5.64 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 85.00 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
2.6 ปลาหมึกกระดอง (ขนาดกลาง)
ราคาปลาหมึกกระดองสดที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 134.00 บาท ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 161.00 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 27.00 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 200.00 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
2.7 ปลาเป็ดและปลาป่น
ราคาปลาเป็ดที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 8.30 บาท ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 8.31 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.01 บาท
สำหรับราคาขายส่งปลาป่นชนิดโปรตีนต่ำกว่า 60% (ระหว่างวันที่ 18 – 24 มกราคม 2562) ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 27.00 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา