- ข้อมูลเศรษฐกิจการเกษตร
- ภาวะเศรษฐกิจการเกษตร
- รายละเอียดภาวะเศรษฐกิจการเกษตร
ข้อมูลเศรษฐกิจการเกษตร
จับตาเส้นทางกาแฟเมืองย่าโม สศท.5 เปิดผลสำรวจการผลิต-แหล่งจำหน่ายของจังหวัด
ข่าวที่ 10/2560
วันที่ 23 มกราคม 2560
จับตาเส้นทางกาแฟเมืองย่าโม
สศท.5 เปิดผลสำรวจการผลิต-แหล่งจำหน่ายของจังหวัด
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่
5 เผยผลสำรวจการผลิตกาแฟ ปี 2559 จังหวัดนครราชสีมา ระบุ พื้นที่ปลูกกาแฟทั้งจังหวัดประมาณ
540 ไร่ ผลผลิตประมาณ 16.42 ตัน เฉลี่ยอยู่ที่ไร่ละ 58 กิโลกรัม ส่วนมากร้อยละ 80 เป็นพันธุ์อาราบิก้า
มีแหล่งเพาะปลูกอยู่ใน 2 อำเภอ คือ วังน้ำเขียว และ สูงเนิน โดยผลผลิตทั้งหมดจะเข้าสู่กระบวนการแปรรูป
และจำหน่ายใน 3 แหล่ง คือ วิสาหกิจชุมชนกาแฟดงมะไฟ ฟลอราปาร์ค และโรงคั่วกาแฟ
วังน้ำเขียว
นายคมสัน
จำรูญพงษ์ รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
(สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กาแฟ
เป็นพืชเศรษฐกิจตัวหนึ่งที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูก
รวมไปถึงผู้แปรรูปและผู้ค้าด้วย
ซึ่งกาแฟในประเทศไทยส่วนใหญ่ปลูกพันธุ์อยู่ 2 พันธุ์ คือ โรบัสต้า (ร้อยละ
98) และอาราบิก้า (ร้อยละ 2) โดยพันธุ์อาราบิก้า
ส่วนใหญ่ปลูกอยู่ทางภาคเหนือในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ และน่าน ตามลำดับ
โดยกาแฟที่มีชื่อเสียงของไทย คือ กาแฟดอยช้างของจังหวัดเชียงราย ที่เป็นกาแฟคุณภาพมาตรฐานเทียบเท่าสากล
ส่วนพันธุ์โรบัสต้า
ส่วนใหญ่ปลูกในพื้นที่ ภาคใต้ จังหวัดระนอง สุราษฎร์ธานี และชุมพร ตามลำดับ
ในส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 5 จังหวัดนครราชสีมา (สศท.5) ได้สำรวจปริมาณการผลิตกาแฟ
ปี 2559 ร่วมกับการสำรวจ RRA
ในจังหวัด ซึ่งมีพื้นที่ปลูกกาแฟทั้งจังหวัดประมาณ 540 ไร่
เนื้อที่ให้ผลผลิตปี 2559 ประมาณ 280 ไร่ กาแฟที่ปลูกส่วนมากร้อยละ 80
จะเป็นพันธุ์อาราบิก้า พื้นที่ปลูกกาแฟของจังหวัดนครราชสีมา
จะมีแหล่งเพาะปลูกอยู่ในพื้นที่หลัก 2 อำเภอ คือ อำเภอ วังน้ำเขียว
กับอำเภอสูงเนิน โดยร้อยละ 90 จะปลูกอยู่ในพื้นที่อำเภอวังน้ำเขียว
สำหรับผลผลิตกาแฟ
ปี 2559 มีประมาณ 16.42 ตัน เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ไร่ละ 58 กิโลกรัม (เมล็ดแห้ง) ซึ่งผลผลิตทั้งหมดจะเข้าสู่กระบวนการแปรรูป
และจำหน่าย โดย 3 แหล่งหลักๆ คือ 1.วิสาหกิจชุมชน กาแฟดงมะไฟ(อำเภอสูงเนิน)
ซึ่งเป็นกาแฟ GI
โคราชและเป็นที่รู้จักกันในชื่อแบรนด์ กาแฟโคราช 2.ฟลอราปาร์ค ซึ่งมีไร่ฟ้าประทานเป็นเจ้าของผลิต แปรรูป และจำหน่ายเอง และ 3. โรงคั่วกาแฟ
วังน้ำเขียว ซึ่งมีการปลูกเอง และรับซื้อจากสมาชิกเพื่อการแปรรูป
ทั้งที่เป็นผลิตกาแฟและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ เช่น ครีมขัดผิวกาแฟ เป็นต้น
ทั้งนี้
ปีถัดไป คาดว่าพื้นที่ปลูกกาแฟจะมีทิศทางแนวโน้มเพิ่มขึ้นและเชื่อว่าจะเป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่มีอนาคต ที่สดใสของจังหวัดนครราชสีมาด้วย ซึ่งหากเกษตรกรท่านใดสนใจปลูกกาแฟก็สามารถศึกษาเพิ่มเติมกับผู้ผลิตและจำหน่ายทั้ง
3 แหล่งข้างต้น หรือสอบถามได้ที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 5 จังหวัดนครราชสีมา
โทร. 044 465 120 และอีเมล zone5@oae.go.th
*********************
ข่าว : ส่วนประชาสัมพันธ์
ข้อมูล : สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 5 จังหวัดนครราชสีมา