- หน้าแรก
- ข่าวประชาสัมพันธ์
- รายละเอียดข่าว
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 1 ร่วมประชุมวางแผนเชิงรุก รองรับการแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตร
วันที่ 23 มกราคม 2564 นางอังคณา พุทธศรี ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 1 (สศท.1) พร้อมเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมประชุมวางแผนเชิงรุก เพื่อรองรับการแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตร(กระเทียม) โดยมี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมฯ นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เข้าร่วมประชุมด้วย การประชุมฯ เพื่อติดตามสถานการณ์การผลิตสินค้ากระเทียมและร่วมวางแผนเชิงรุกรองรับการแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตร ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุม 80 พรรษา อาคารองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่
จากการประชุมพบว่า ประเด็นปัญหาคือ ในช่วงที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนว่า เกษตรกรประสบปัญหาราคากระเทียมสดและกระเทียมแห้งตกต่ำ โดยมีพ่อค้าเข้ารับซื้อก่อนฤดูเก็บเกี่ยวและกดราคารับซื้อกระเทียมสดที่ 8 บาทต่อกิโลกรัม และกระเทียมแห้งอยู่ที่ 25 บาทต่อกิโลกรัม จากปัญหาดังกล่าว ภาครัฐเกรงจะส่งผลให้ราคากระเทียมที่กำลังจะถึงฤดูเก็บเกี่ยวลดต่ำลงเกินกว่าระดับราคาที่ควรเป็น จึงได้จัดให้มีพิธีการทำสัญญาซื้อ ขาย กระเทียมสด ระหว่างกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียม จำนวน 8 กลุ่ม ในสามจังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน และแม่ฮ่องสอน กับผู้ประกอบการรับซื้อ จำนวน 8 บริษัท เพื่อเป็นต้นแบบ (model) ในการเชื่อมโยงตลาดกระทียมให้เกิดการซื้อขายจริง โดยกำหนดราคากระเทียมสดรับซื้ออยู่ที่ 13.50 บาทต่อกิโลกรัม ให้เป็นราคานำตลาด นอกจากนี้ยังมีมาตรการเชิงรุกกระเทียม ปี 2563/64 จำนวน 5 มาตรการ ได้แก่ 1. ชดเชยดอกเบี้ยสหกรณ์และผู้ประกอบการสำหรับรวบรวมผลผลิต 3% ระยะเวลา 6 เดือน 2. ชดเชยดอกเบี้ยเกษตรกรเพื่อชะลอการขาย 3% ระยะเวลา 6 เดือน 3. เชื่อมโยงตลาดรับซื้อกระเทียมสดในราคานำตลาด ไม่ต่ำกว่า13.50 บาทต่อกิโลกรัม 4. มาตรการด้านกฎหมายแบบเข้มงวด ทั้งด้านการตรวจสอบนำเข้า มาตรการ SPS การควบคุมการเคลื่อนย้ายสินค้า รวมถึงเข้มงวดการป้องกันการลักลอบนำเข้า 5. มาตรการส่งเสริมจากภาครัฐ เช่น พัฒนาพันธุ์กระเทียมคุณภาพดี และส่งเสริมการตลาด การบริโภคและการแปรรูปกระเทียม เป็นต้น
นอกจากนั้น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายให้กรมวิชาการเกษตร เข้มงวดเรื่องการนำเข้ากระเทียมจะต้องถูกสุขอนามัย ไม่ปนเปื้อนเชื้อโรค และมอบหมายให้สถาบันวิจัยพืชสวนเร่งพัฒนาพันธุ์กระเทียม เพื่อปรับปรุงพันธุ์ให้ทนต่อโรคและแมลง และให้รายงานความคืบหน้าต่อไป
จากการประชุมพบว่า ประเด็นปัญหาคือ ในช่วงที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนว่า เกษตรกรประสบปัญหาราคากระเทียมสดและกระเทียมแห้งตกต่ำ โดยมีพ่อค้าเข้ารับซื้อก่อนฤดูเก็บเกี่ยวและกดราคารับซื้อกระเทียมสดที่ 8 บาทต่อกิโลกรัม และกระเทียมแห้งอยู่ที่ 25 บาทต่อกิโลกรัม จากปัญหาดังกล่าว ภาครัฐเกรงจะส่งผลให้ราคากระเทียมที่กำลังจะถึงฤดูเก็บเกี่ยวลดต่ำลงเกินกว่าระดับราคาที่ควรเป็น จึงได้จัดให้มีพิธีการทำสัญญาซื้อ ขาย กระเทียมสด ระหว่างกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียม จำนวน 8 กลุ่ม ในสามจังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน และแม่ฮ่องสอน กับผู้ประกอบการรับซื้อ จำนวน 8 บริษัท เพื่อเป็นต้นแบบ (model) ในการเชื่อมโยงตลาดกระทียมให้เกิดการซื้อขายจริง โดยกำหนดราคากระเทียมสดรับซื้ออยู่ที่ 13.50 บาทต่อกิโลกรัม ให้เป็นราคานำตลาด นอกจากนี้ยังมีมาตรการเชิงรุกกระเทียม ปี 2563/64 จำนวน 5 มาตรการ ได้แก่ 1. ชดเชยดอกเบี้ยสหกรณ์และผู้ประกอบการสำหรับรวบรวมผลผลิต 3% ระยะเวลา 6 เดือน 2. ชดเชยดอกเบี้ยเกษตรกรเพื่อชะลอการขาย 3% ระยะเวลา 6 เดือน 3. เชื่อมโยงตลาดรับซื้อกระเทียมสดในราคานำตลาด ไม่ต่ำกว่า13.50 บาทต่อกิโลกรัม 4. มาตรการด้านกฎหมายแบบเข้มงวด ทั้งด้านการตรวจสอบนำเข้า มาตรการ SPS การควบคุมการเคลื่อนย้ายสินค้า รวมถึงเข้มงวดการป้องกันการลักลอบนำเข้า 5. มาตรการส่งเสริมจากภาครัฐ เช่น พัฒนาพันธุ์กระเทียมคุณภาพดี และส่งเสริมการตลาด การบริโภคและการแปรรูปกระเทียม เป็นต้น
นอกจากนั้น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายให้กรมวิชาการเกษตร เข้มงวดเรื่องการนำเข้ากระเทียมจะต้องถูกสุขอนามัย ไม่ปนเปื้อนเชื้อโรค และมอบหมายให้สถาบันวิจัยพืชสวนเร่งพัฒนาพันธุ์กระเทียม เพื่อปรับปรุงพันธุ์ให้ทนต่อโรคและแมลง และให้รายงานความคืบหน้าต่อไป
แหล่งข้อมูล
https://www.facebook.com/media/set?vanity=zone1chm&set=a.3702075863219291